คุณภาพของการเชื่อมจะขึ้นอยู่กับความชำนาญของช่างเชื่อม เนื่องจากเป็นเทคนิคที่ทำด้วยมือ (manual technique) ซึ่งต้องใช้ทักษะและประสบการณ์ของช่าง
ในการควบคุมเพื่อให้การเชื่อมเกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปัจจัยในการเชื่อมพลาสติกต้องการอุณหภูมิ, แรงดัน, และความเร็วที่สัมพันธ์กัน
หากขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่ง การเชื่อมพลาสติกอาจจะติดกัน แต่จะไม่แข็งแรงเท่ากับการเชื่อมที่สมบูรณ์ เมื่อทำได้อย่างถูกต้อง การเชื่อมพลาสติกจะมีความแข็งแรงเท่ากับวัสดุโดยรอบ
 

1. อุณหภูมิ (Temperature)

พลาสติกแต่ละชนิดมีช่วงอุณหภูมิที่เหมาะสมในการเชื่อมต่างกัน โดยผู้ผลิตพลาสติกมักจะให้ช่วงอุณหภูมิมาตรฐานสำหรับใช้กับผลิตภัณฑ์ของตนเอง
อย่างไรก็ตามการปรับอุณหภูมิในการเชื่อมสามารถแปรเปลี่ยนได้ตามสภาพแวดล้อม เช่น หากคุณทำการเชื่อมพลาสติกในสภาพแวดล้อมที่เย็นกว่าปกติ คุณอาจต้องเพิ่มอุณหภูมิการเชื่อมขึ้นเล็กน้อย หรือหากพลาสติกมีการตากแดดไว้ คุณก็ต้องลดอุณหภูมิของเครื่องเชื่อมลงมาจากค่ามาตรฐานที่ผู้ผลิตกำหนดไว้ 

2. แรงดัน (Pressure)

ความแข็งแรงของการเชื่อมเกิดจากการผสมผสานที่เหมาะสมระหว่างชิ้นงานกับลวดเชื่อมหรือวัสดุเติม โดยหากแรงดันไม่เหมาะสมจะไม่สามารถผสมผสานวัสดุทั้งสองให้เชื่อมกันได้อย่างดี

• สำหรับการเชื่อมด้วยมือ (Hand Welding) การควบคุมแรงดันจะเรียนรู้ได้จากการฝึกฝนและประสบการณ์ 

3. ความเร็ว (Speed Time)

เวลาที่ใช้ในการเชื่อมพลาสติกขึ้นอยู่กับความเร็วในการเชื่อม หากเร็วเกินไป วัสดุจะมีเวลาไม่เพียงพอในการทำละลาย และแรงดันจะถูกใช้ในเวลาที่สั้นเกินไป 

หากช้าเกินไป พลาสติกก็จะถูกทำให้ร้อนเกินไปและอาจเสื่อมสภาพได้ การควบคุมความเร็วในการเชื่อมเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สม่ำเสมอ